ทำเอาแฟนคลับใจหายหลังหนุ่มตัวเล็กแห่งบ้านเดอะสตาร์
"ริท เรืองฤทธิ์" ประกาศหันหลังในวงการบันเทิง 5 ปี เพื่อกลับไปเรียนหมอที่
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตามที่เคยวาดฝันไว้ แต่ช่วงเวลาว่างก็อาจจะแว๊บมารับงานบ้างเล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นให้แฟนๆได้เห็นหน้าเห็นตากันบ้าง ทั้งนี้เจ้าตัวเผยว่าหากกลับไปแล้ว ชีวิตในวงการบันเทิงจะไม่เหมือนเดิมตนก็ไม่เสียใจเพราะคิดว่าการเลือกกลับไปเรียนหมอก็เป็นอาชีพที่ดีเช่นกัน ฉะนั้นตอนนี้ขอทุ่มเทให้กับการเรียน ส่วนเรื่องอื่นให้เป็นเรื่องรองลงมา
ริทเคยบอกว่าจะกลับไปเรียน แล้วเป็นไงบ้าง?
"ได้ไปคุยกับอาจารย์เรียบร้อยแล้ว ประมาณเดือนตุลาคม เปิดเทอม 2 นี้ริทก็จะเริ่มไปทบทวนบทเรียนของปี 1 จริงๆ ริทจบปีหนึ่งแล้ว แต่จะไปพบเพื่อนจะได้มีเพื่อนเรียน ทบทวนบทเรียนเพื่อให้ไม่ลืม เวลาสอบก็ไม่ต้องสอบเพราะเราผ่านมาแล้ว อาจจะแว๊บมาทำงานบ้าง หลังจากเสร็จงานแล้วเรื่อยๆ จนถึงมิถุนายนปีหน้า ตอนนี้คือเราจะเข้าไปเรียนปี 2 แบบจริงจังแล้ว ก็จะเอาการเรียนเป็นหลัก"
ตอนนี้เราก็ยังรับงานได้อยู่?
"ตอนนี้ยังได้อยู่ครับ"
เรามีการแบ่งเวลายังไงเพราะต้องทำงานแล้วยังต้องเรียนด้วย
"อันนี้ริทยังไม่ทราบจริงๆ ครับว่าคือริทไม่รู้ว่ามีเวลามากน้อยแค่ไหน จะสามารถแบ่งเวลากับตัวเองได้ไหม ถ้าเกิดจะแบ่งได้ ทำได้บ้าง ถ้าใช้เวลาไม่มาก เช่นซิทคอมนัดกับนัด ที่อาจจะพอมาถ่ายได้ที่ฟิกซ์เวลาแน่นอนว่าเราไม่ขาดเรียนแน่นอน"
เรื่องสัญญาเรายังมีอยู่กับทางค่ายใช่ไหม
"ยังอยู่ครับ เซ็นไว้คือ 5 ปี ครับ"
กลัวเหนื่อยบ้างไหม
"ก็มีแอบคิดเหมือนกันว่าแต่อาจจะเหนื่อย แต่ก็มันต้องสู้ครับ เพราะเราเลือกอย่างนี้แล้วนะครับ ก็ต้องอดทนกันนิดนึง"
คุณพ่อว่าอย่างไรบ้างที่เรากลับไปเรียนตามสัญญาแล้ว
"คุณพ่อคุณแม่ริทก็ดีใจ ที่ริทเลือกกลับไปเรียน มันคือการตัดสินใจของริทเองว่า ริทไม่เรียนในกรุงเทพแล้ว ขอเรียนในขอนแก่นเหมือนเดิม ว่าอยู่กับสถาบันเดิม กับครูคนเดิมกับสถานที่เดิม อยู่กับเพื่อนกลุ่มเดิมน่าจะมีความสุขกว่า"
เราจะเรียนทันเพื่อนร่วมรุ่นเดิมเราไหม
"เพื่อนๆ เขาก็มีเรียนไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างน้อยก็มีเพื่อนเป็นที่ปรึกษา มีอะไรริทจะได้ถามได้"
มีบางกระแสว่าเพราะผลงานเราไม่ดังเท่า กัน - โตโน่ ก็เลยตัดสินใจไปเรียน
"จริงๆ ริทตั้งใจจะดร็อปเรียนแค่ปีเดียว แต่งานไม่หยุดจริงๆ หลังจากมิถุนายนปีที่ผ่านมานี้ คือตอนนั้นริทเริ่มหยุดรับงานหมดแล้ว เพราะริทจะกลับมาเรียน แต่ในเมื่อมันไม่ทัน ไปคุยกับทางมหาวิทยาลัย ก็เข้าใจ คุยกันเรียบร้อย เลยเพิ่งมารับงานใหม่หลังจากที่หยุดรับงานไป ตอนนี้ก็ค่อยๆลดลงเพราะว่าไม่อยากให้มีปัญหาครับ"
เวลาไปเรียนที่ขอนแก่นกลัวจะห่างเหินกับแฟนคลับไหม
"ก็ห่างเหิน แต่ว่าคือเวลาเจอกัน ทุกคนเข้าใจว่าริทต้องไปเรียน 5 ปี เป็นอย่างต่ำทุกคนให้คำสัญญาว่าจะอยู่รอริท ซึ่ง 5 ปี ข้างหน้าอาจจะไม่มีแฟนคลับเยอะเท่าเดิมหรือว่าไม่มีคนรักคนชอบ จำริทได้เหมือนเดิม ต้องทำใจเพราว่าเราเลือกที่จะเดินไปเรียน 5 ปี นั้น ถ้ากลับมา ยังคงมีคนจำริทได้เหมือนเดิม มีแฟนคลับเท่าเดิม อาจจะกลับมาได้ ในเมื่อไม่เป็นอย่างที่เราคิดไว้ วาดฝันไว้ก็ไม่เป็นไร เพราะเราก็มีอาชีพหมอที่เป็นอีกทางเดินนึงอยู่แล้ว"
มีทำใจไว้บ้างแล้วใช่ไหม
"มันก็ไม่ถึงขนาดทำใจ คืออนาคตมันก็คืออนาคต อีก 5 ปี ไม่รู้เป็นอย่างไรแล้ว เราไม่ได้ทำตรงนี้ก็ไม่เป็นไร เป็นหมอได้ มุ่งด้านหมออย่างเดียวเลยก็ได้ แต่ถ้าเกิดมีตรงนี้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็ดีอาจจะได้เป็นหมอที่อยู่ในวงการบันเทิงก็ดีไปอีกแบบหนึ่ง"
เคยคิดไหมว่าจะเอาอาชีพทั้ง 2 อย่างมาประยุกต์ใชร่วมกัน
"เคยคิดเหมือนกันว่า อย่างตอนแรกริทตั้งใจว่าจะเป็นอายุรแพทย์ เพราะว่าต้องได้ดูแลรักษาพ่อแม่แน่นอน คิดตื้นๆ แบบเด็กๆ เลย พอได้มาทำงานวงการบันเทิง มีเรื่องของความสวยความงาม หรือเป็นหมอสกินดี เอามาประยุกต์ใช้ร่วมกันดี ริทได้คุยแลกเปลี่ยนความรู้กับหมอโอ๊คเหมือนกัน"
กลัวไหมว่าเด็กใหม่จะเข้ามาแทนที่เรา
"ไม่ใช้คำว่ากลัวดีกว่าเพราะริทรู้อยู่แกใจอยู่แล้วว่าต้องมีคนเข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้ชีวิตริทมี 2 เส้นทาง แต่ริทเลือกที่จะไปทางหมอ ฉะนั้นถ้าเส้นทางบันเทิงมันจะไม่เหมือนเดิม ริทก็คงไม่เสียใจครับ"
เรียนจบจะกลับมาทำงานวงการบันเทิงต่อเลยไหม?
"มันตอบไม่ได้จริงๆ ครับ เพราะต้องรออีก 5 ปี เป็นอย่างต่ำ ถ้าเกิดกลับมาได้ริทก็โอเคแฮปปี้ดีใจ ถ้ากลับมาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ อย่างที่บอกตอนนี้เป็น 2 เส้นทางไปแล้ว"
นไว้ก่อนแล้วเลยไม่เป็นอะไร คราวนี้คุณหมอเลยฝากมาบอกว่าตอนนี้เป็นช่วงระบาดของโรคนี้ครับ แล้วป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ถ้าเกิดคนไหนว่างๆ ก็ไปฉีดวัคซีนกันไว้ดีกว่า”
